คปภ. มองเบี้ยประกันภัยปีนี้แตะ 8.86 แสนล้าน โต 2.10%

เรื่องที่น่าสนใจ เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

คปภ. ประมาณการเบี้ยประกันภัยปี’65 แตะ 8.86 แสนล้านบาท โต 2.10% ธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยรับรวม 6.14 แสนล้านบาท โต 1.18% ธุรกิจประกันวินาศภัยมีเบี้ยรับรวม 2.71 แสนล้านบาท โต 4.25% โปรดักต์ “ออมทรัพย์-สุขภาพ-รถยนต์-EV-เดินทาง” นิยมสูงสุด

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ประมาณการเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงของปี 2565 จะมีเบี้ยประกัน 886,211 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตประมาณ 0.10-2.10% แบ่งเป็นประมาณการเบี้ยประกันชีวิตจำนวน 614,917 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต -0.82% ถึง +1.18% สอดคล้องกับการประมาณการของสมาคมประกันชีวิตไทย (ประมาณการไว้ +0.00% ถึง +2.50%)

ขณะที่ประมาณการเบี้ยประกันวินาศภัย จำนวน 271,293 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตประมาณ +2.25% ถึง +4.25% สอดคล้องกับการประมาณการของสมาคมประกันวินาศภัยไทย (ประมาณการไว้ +3.50 ถึง +4.50%)

และสำหรับประมาณการเบี้ยประกันภัยปี 2566 จะมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงประมาณ 894,600 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตประมาณ -0.05% ถึง +1.95%

โดยผลิตภัณฑ์ประกันภัยและผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมและมีการเติบโตสูงขึ้น คือ 1.ประกันสะสมทรัพย์ 2.ประกันสุขภาพ ส่วนผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยที่ได้รับความนิยมและมีการเติบโตสูงขึ้นคือ 1.ประกันภัยรถยนต์ซึ่งยังคงครองแชมป์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ตามมาด้วย 2.ประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ รวมทั้งมาตรการเปิดประเทศของภาครัฐที่เน้นเรื่องการท่องเที่ยว ส่งผลให้ 3.ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศจะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น

นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (รถ EV) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการยานยนต์ เกิดกระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น โดยปัจจุบันมีรถ EV จดทะเบียนรวมทุกประเภท ประมาณ 20,000 คัน ซึ่งบริษัทประกันภัยจะกำหนดเบี้ยรถ EV สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป

สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ.
ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงรถ EV สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย พัฒนา ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัย จึงได้มีการประชุมหารือกับภาคธุรกิจประกันภัยที่มีการรับประกันภัยรถ EV รวมทั้งผู้แทนจากคณะกรรมการยานยนต์และสมาคมประกันวินาศภัยไทยเพื่อแก้ไขปัญหาค่าเบี้ยประกันภัย โดยที่ประชุมได้ตกลงร่วมกันว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เอาประกันภัย บริษัทประกันภัยจะยังไม่มีการขึ้นเบี้ยประกันภัยในช่วงนี้ แม้ว่า Loss Ratio ของรถกลุ่มนี้จะสูงกว่ารถสันดาปค่อนข้างมากก็ตาม

สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ.
สิ่งที่สำนักงาน คปภ. จะดำเนินควบคู่กันไป โดยกำหนดแผนดำเนินการในปี 2566 คือจะมีการเก็บรวบรวมสถิติการรับประกันภัยรถ EV และศึกษารูปแบบการประกันภัยเพื่อจัดทำพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยรถ EV ให้มีความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกันภัยสอดคล้องกับความเสี่ยงและต้นทุนในการรับประกันภัย อันจะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้ อีกทั้ง จะเป็นทางเลือกให้กับประชาชนผู้ใช้รถ EV สามารถเข้าถึงเบี้ยประกันภัยที่ถูกลงได้